เว็บไซต์ Deal street asia รายงานว่า Sea-Group เจ้าของแพลตฟอร์อีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Shopee กำลังปลดพนักงานในตลาดต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการเลิกจ้างส่งผลกระทบต่อพนักงานในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่งของบริษัท รวมถึงอินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม แหล่งข่าวหลายแห่งบอกกับ DealStreetAsia ว่าบริษัทได้ส่งการสื่อสารทางอีเมลไปยังพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง
ขณะที่ธุรกิจชำระเงินของ ShopeePay และธุรกิจส่งอาหาร ShopeeFood ก็กำลังเผชิญกับการลดค่าใช้จ่ายเช่นกัน โดยมีรายงานว่าการประชุมเมื่อวานนี้ยังไม่สามารถระบุขอบเขตของการลดงานและจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างได้
แหล่งข่าว 2 รายระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งของทีมชำระเงินและจัดส่งอาหารของ Shopee Thailand จะได้รับผลกระทบจากการลดขนาดลง โดยบริษัทขอให้พนักงานกลับบ้านและรออีเมลแจ้งการเลิกจ้าง

ในขณะที่ธุรกิจของ Sea Group ยังคงแสดงสัญญาณของการปรับปรุงในการทำกำไรโดยรวม รายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจาก Garena ธุรกิจเกม
ส่วนธุรกิจของ Shopee ยังคงขาดทุน แม้ว่าจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 71.3% หรือเป็น 1.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ปี 2565 แต่ก็ยังพบกับปัญหามหภาคหลายประการ ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการค้าปลีกและการบริโภค
นอกจากนี้บริษัทยังดูเหมือนจะเผชิญกับความพ่ายแพ้ในแผนการขยายธุรกิจสู่สากล รวมถึงการบุกตลาดยุโรปและละตินอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ตัดสินใจที่จะถอนตัวออกจากฝรั่งเศสหลังจากผ่านไปเพียงห้าเดือน เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และตามมาด้วยการถอนตัวออกจากประเทศอินเดียในอีกหนึ่งเดือนถัดมา ซึ่งนำไปสู่การเลิกจ้างงานของ Shopee 300 ตำแหน่งในประเทศแถบเอเชียใต้
รวมถึงการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีค่อนข้างสูงและแย่งชิงส่วนแบ่งอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้สตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกหลายรายก็เคยผ่านการฝึกลดพนักงานในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากพยายามรักษาเงินสดไว้ท่ามกลางภาวะตกต่ำทั่วโลก เช่น Lummo, LinkAja, JD.ID, Pahamify และ Zenius ต่างก็เลิกจ้างพนักงานหลายร้อยคนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน